Tuesday, March 22, 2011

Siamese Meow Frugal Lesson 1 Grow Your Own Sprouts.

I've been very obsessed with sprouting mung bean sprouts at home recently.Not that it's hard to find mung bean sprouts in Paris, you can buy them almost every where now even in normal supermarket, no need to sweat going to Chinatown to buy just bean sprouts everytimes you feel like to make some fried noodle or spring-rolls.They are also relatively inexpensive (yet, still too expensive for me) but the reason why I wanted to grow my own sprouts is that I'm doubting if those plumpy crunchy and super white sprouts in the markets are really safe?
I am, not at all a health freak but one day after I munched load and load of mung sprouts for dinner I found that my tongue was numb a little.It was kind of feeling you have after you ate something too salty or you just licked sodium bicarbonate (Why I ever licked baking soda? you might ask) so I felt a little bit freaked out and thought about growing them so that
-Everytimes I want to cook something with mung bean sprouts I'll alway have them supply in the refrige.
-I'll always have them FRESH.
-They are ORGANIC.
-AND CHEAP!!!!!!!!!! :D :D
I got a 1 kg. bag of dried mung bean seed from an Asain Supermarket at Paris Chinatown (13e arrondissement) cost me only a little more than 1 euro and after made some research though internet about 'Homegrown bean sprouts' both in Thai and English I started to sprout my beans for the first time since 20 years (I did actually ever grew bean sprouts already few times before when I was in primary school in Science class :P but I didn't eat them and let them grew until they had green leafs and everything).
Then 6 days after that I got my first batch of fresh organic mung bean sprouts in my Pad-Thai.
อยู่ปารีสมาตั้งนาน เพิ่งมาคิดปลูกถั่วงอกเอาไว้กินเองก็ตอนนี้ แถมยังลุ่มหลง เอามากๆขนาดว่าเช้าต้องเข้าไปเยี่ยมถั่ว เย็นต้องเข้าไปเยี่ยมถั่ว กลางคืนก่อนนอนยังต้องไปบอกราตรีสวัสดิ์มัน (เย๊ยยย) จนสามีน้อยใจแอบกัดแกมหยอกว่า เดี๋ยวนี้เป็นชู้กับถั่วงอกซะแล้วหรือ เอาใจมันเหลือเกิน แถมวันๆยังนั่งค้นข้อมูลในเน็ตอย่างเอาเป็นเอาตาย (ว่ะ ฮ่า ฮ่า ทำมาว่าเค้า เดี๋ยวได้กินถั่วงอกงามๆ ของเราแล้วติดใจ)เพราะว่าเอาถังเพาะถั่วงอกไปวางไว้ในตู้เก็บของในห้องน้ำเนื่องจากมันเป็นที่ๆเราคิดว่ามืดและอุ่นที่สุดในบ้านแล้ว ก็เลยต้องตามไปรดน้ำและแอบบแง้มฝาดูทุกวันว่ามันจะโตไหม จะกินได้หรือยัง เพราะตามที่เขาสอนมา เขาว่า4 วันก็เก็บเอาไปใส่ก๋วยเตี๋ยวกินได้แล้วแต่รอบแรกที่เราปลูก (ในครัว) 4 วันหางยังสั้นจุ๊ดจู๋อยู่เลย ต้องรอวันที่6 (ด้วยความระทึก เพราะเชิญเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน จะผัดไทยให้หม่ำ กะอวดถั่วงอกปลูกเองกันวันนั้น) ถึงจะได้เก็บมากิน แต่ถั่วงอกเรา หัวโต ตัวลีบ แถมสั้นอีก ไม่เหมือนคนปลูกเอาซะเลย (ทั้งอวบ ทั้งบวม)
เลยฮึดปลูกรอบสองใหม่ เปลี่ยนสถานที่ปลูก(จากครัว เป็นห้องน้ำ) เปลี่ยนภาชนะ(จากหม้อนึ่งเป็นตะกร้าล้างสลัด) และรดน้ำให้มากกว่าเดิม (รอบแรกรดวันละครั้ง รอบสองรด วันละ 2-3 ครั้ง) คราวนี้4วันก็ได้กินแล้ว ถึงจะไม่สวย ขาว อวบ (แต่อาจมีสารพิษ)เหมือนที่ขายตามร้าน แต่ก็มั่นใจว่าสดสะอาดปลอดสารพิษและไม่เป็นมลภาวะกับสิ่งแวดล้อมแน่ๆ แถมเรายังคิดว่ามันอร่อยกว่าที่ซื้อด้วยล่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันอร่อยจริงๆ หรือคิดว่ามันอร่อยเพราะภูมิใจที่ปลูกกินเองกันแน่ แต่ก็ภูมิใจนำเสนอนะ เอาไปให้คนนู้นคนนี้กิน เขาก็ชมกันมาว่าเออ มันสด กรอบ อร่อย ใช้ได้นะ....แค่หน้าตาแปลกๆเท่านั้นเอง ฮ่าๆ ประมาณว่าดูก็รู้ว่าไม่ได้ซื้อมาชัวร์ ผอมๆ หงิกๆ หัวเป็นสีๆ แบบนี้
ตั้งแต่นี้ไปก็เลยตั้งปณิธานว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ (เช่นมันโตไม่ทันกิน) จะไม่ยอมซื้อถั่วงอกกินอีกต่อไป ว่ะ ฮ่า เฮย...
Mung bean sprouts grew in salad spinner basket (which is the most perfect to grow sprouts in my opinion) Sprouts on the first floor had slightly purple color on their head because of the light that leaked in everytimes I watered them.
เราใช้ปลูกในตะกร้าสำหรับล้างและปั่นแห้งสลัด ฮ่าๆ ครั้งแรกที่ปลูก ใช้ปลูกในหม้อนึ่ง(คล้ายๆซึ้งนึ่งบ้านเราแต่เป็นหม้อของฝรั่ง) แต่มีความรู้สึก(คิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้) ว่าหม้อมันเป็นโลหะ รู้สึกว่าอากาศในหม้อมันจะเย็นๆ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถั่วงอกเราโตช้า เลยไปขุดตะกร้าล้างผักที่ไม่เคยใช้เอามาลองปลูกดู ปรากฏว่าได้ผลดีทีเดียว ไม่ค่อยเปลืองที่ด้วย แถมด้านนอกยังเป็นพลาสติกสีเขียวทึบ เพราะอ่านในเน็ตเจอว่าถังปลูกถั่วงอก ใช้สีเขียว ดำหรือน้ำเงิน จะทึบแสงดีสุด ...เหมาะเหม็ง
ปลูก 2 ชั้น(คั่นด้วยกระดาษทิชชู่สำหรับในครัว) ชั้นแรกโตมาหัวม่วงเป็นพังค์ เพราะได้โดนแสง ได้พบเห็นโลกภายนอก ทุกครั้งที่เราเปิดฝามารดน้ำ เลยใจแตก (ก็เพ้ออะไรไปเรื่อย)

The 2nd floor (under) were fatter and whiter then the upper floor.ชั้นล่างไม่เคยได้เห็นโลกภายนอกเท่าไหร่แถมถูกถั่วงอกชั้นบนกดขี่ก็เลยโงหัวไม่ค่อยจะขึ้น เลยทั้งอวบ(กว่าชั้นบนนิดหน่อย) ทั้งขาว เหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ อ่อนโลก ฮ่าๆ นี่แหละที่เราต้องการ

They don't look beautiful and big like the commercial sprouts of course but I think they taste better ไม่สวย ไม่อวบ หน้าตาพื้นๆ แต่สดกรอบอร่อยนะ


Cut the roots and clean out those green skins.พยายามเลาะออกจากกระดาษทิชชู่ที่ได้ปลูก ด้วยมีดคมๆ เพื่อเป็นการตัดรากออกไปด้วย แล้วล้างเอาเปลือกเขียวๆออก จริงๆรากกับเปลือกเขียวๆก็กินได้นะ ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ แต่ว่าเอารากออกแล้วมันก็สวยดี แถมไม่มีเปลือกมาติดฟัน ให้รำคาญเวลาเคี้ยว
This is what I got from only half cup of dried mung beans.Now why would I ever want to buy sprouts anylonger?
ใช้ถั่วแค่ครึ่งถ้วยเอง ได้ถั่วงอกมาตั้งเกือบครึ่งโล คิดเป็นเงินแล้วลงทุนไปครั้งละไม่กี่สลึงค์เองง่ะ ถ้าซื้อจาก ร้านเอเชียแถวบ้าน ปริมาณน้อยกว่านี้นิดนึง ราคาตั้ง1ยูโรแน่ะ แถมเก็บไว้ในตู้เย็นได้2วันก็เน่าแล้ว บางทีซื้อมายังไม่ทันจะกิน (เพราะไปเห็นแล้วก็โลภซื้อติดมือมา ยังไม่ทันคิดว่าจะเอามาทำอะไรดี) หรือกินไปนิดเดียว ที่เหลือก็เน่าต้องทิ้งหมด เสียดายทุกที เวลาไปซื้อเขาถึงจะแค่ยูโรเดียว แต่เน่าแล้วทิ้งหลายๆครั้งเข้า มันก็หลายยูโรนะ แถมไม่สดสะอาดเท่าเราปลูกเองด้วย
และที่สำคัญที่สุด ทำอะไรเองได้ มันภูมิใจ.